(อ.ปั้น – www.pundaw.com)
“Mindfulness” เป็นสติบำบัด ที่สอนให้ตัวเรามีสติ รับรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นและรู้จักปล่อยวาง นิ่ง เฉย เช่น เวลาโกรธ แทนที่จะเป็นฉันโกรธ ก็จะเปลี่ยนเป็น ฉันเห็นความโกรธ และมีสติในความคิดคือ แทนที่จะมีอารมณ์วิ่งไปตามความคิด แล้วก็ทุกข์กับความคิดนั้น ก็กลายเป็นฉันเห็นความคิด แล้วความคิดก็เพียงแค่เกิดขึ้น และก็ดับไป เราไม่ต้องไปเป็นทาส หรือ ยึดติดความคิดลบนั้น ซึ่งการบำบัดสติกำลังได้รับความนิยมมากในตอนนี้
แต่ การบำบัดสติ อาจจะไม่เหมาะกับบางปัญหาบางสถานการณ์ ดั่งในความจริงที่ว่า #เราจะทนดูความเจ็บปวด__ความทุกข์ใจได้ไม่นาน__หากความทุกข์ใจนั้นมันมีมากเกินไป หรือ อยู่ในช่วงแรกๆของเหตุการณ์ที่ได้รับสิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจ เช่น การเศร้าเสียใจอย่างรุนแรงชนิดควบคุมตัวเองไม่อยู่ การได้รับการสะเทือนใจอย่างมาก การมีอารมณ์โกรธชนิดที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจต้องใช้วิธีบำบัดแบบอื่น จนกว่าความทุกข์นั้น อยู่ในระดับที่เราสามารถทนดูสิ่งเหล่านี้ได้ เหมือนประโยคที่ว่ากาลเวลาจะรักษาแผลในจิตใจ เมื่อกาลเวลาผ่านไปยังคงมีความทุกข์ใจอยู่ แต่อยู่ในระดับที่เราทนดูมันได้ และ พร้อมที่จะมีสติไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ สิ่งเหล่านั้น
สรุป การบำบัดสติ เหมาะกับความทุกข์ หรือปัญหาที่ไม่รุนแรงมาก อยู่ในระดับที่เราทนดูความทุกข์เหล่านั้นได้ เพื่อที่จะไม่มีอารมณ์ตามความคิด หรือ สิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจ (ระดับความทุกข์ในแต่ละปัญหา แต่ละคนไม่เท่ากัน)
แต่ความทุกข์ที่รุนแรงเกินจิตใจรับไว้ อาจต้องใช้วิธีบำบัดแบบอื่น จนกว่าความทุกข์นั้นจะลดลงมา ในระดับที่เราทนดูความทุกข์นั้นไหว จึงใช้สติบำบัด
บทความของผม ไม่อนุญาติให้นำไปใช้เพื่อการค้าทั้งทางตรงและทางอ้อมทุกรูปแบบ แต่อนุญาติให้นำไปใช้เพื่อช่วยเหลือเด็ก-ผู้ใหญ่ทุกคน โดยไม่แบ่งแยกว่าเขาเหล่านั้นจะร่ำรวย หรือ ยากจนเพียงใดก็ตาม
” หมอรักษาผู้ป่วย ผู้ป่วยก็รักษาหมอเช่นกันนั้นคือ ผู้ป่วยก็รักษาความโลภในใจหมอ “